หลังจากที่กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน (Education Cannot Wait หรือ ECW) ได้ปฏิบัติภารกิจภาคสนามระดับสูงร่วมกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) บริเวณชายแดนของสาธารณรัฐชาด ซึ่งผู้ลี้ภัยชาวซูดานราว 60,000 คนเดินทางมาถึงเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุด คุณแยสมิน เชริฟ (Yasmine Sherif) ผู้อำนวยการกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน ได้ประกาศมอบเงินสนับสนุนการรับมือเหตุฉุกเฉินก้อนแรกมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เงินทุนดังกล่าวจะช่วยให้เด็กหญิงและเด็กชายผู้ลี้ภัยชาวซูดานเข้าถึงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและได้รับการคุ้มครอง ตลอดจนสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในชาด ซึ่งเงินสนับสนุนก้อนนี้ทำให้กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินมอบเงินช่วยเหลือในชาดรวมแล้วกว่า 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นในซูดานเมื่อวันที่ 15 เมษายน ประชาชนชาวซูดานกว่า 200,000 คนได้อพยพข้ามพรมแดนไปยังสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ชาด อียิปต์ เอธิโอเปีย และเซาท์ซูดาน ขณะที่ UNHCR ประมาณการว่าตัวเลขดังกล่าวอาจสูงถึง 860,000 คน อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น เกือบ 70% ของผู้ลี้ภัยที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเป็นเด็ก ซึ่งหากไม่ได้เข้าถึงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองแล้ว เด็ก ๆ ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะต้องแต่งงานตั้งแต่เด็ก รวมถึงประสบกับความรุนแรงทางเพศ การแสวงหาประโยชน์จากเด็ก ความหิวโหย การเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธ และการถูกโจมตี “มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้การศึกษาอย่างเร่งด่วนแก่เด็กและวัยรุ่นที่หนีจากความขัดแย้งที่รุนแรงในซูดานและข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สถานการณ์นี้อาจกลายเป็นวิกฤตที่ยืดเยื้อ และการศึกษาที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของเด็ก คุ้มครองเด็ก และปกป้องอนาคตของเด็ก” คุณเชริฟกล่าว

Sultan Zahid (ซุลตาน ซาฮิด) หรือ Taan (ตาล) เป็นนักเรียนที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ริเวอร์ไซด์ มานานกว่าสิบปี เป็นนักกีฬาตัวยง ชอบวิชาคณิตศาสตร์ และมีแผนที่จะเรียนวิศวกรรมศาสตร์ในอนาคต เขาเกิดที่บรุกลิน นิวยอร์ก จากนั้นย้ายไปดูไบระยะหนึ่ง จากนั้นจึงย้ายมาที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยวิดีโอและใบปลิวที่ Taan ได้ทำขึ้นเองและแจกจ่ายให้กับครอบครัวและเพื่อนสนิทของเขาเพื่อระดมทุน จากนั้นข้อมูลดังกล่าวก็เริ่มได้รับแรงผลักดันและถูกแชร์ต่อไปเรื่อย ๆ จนได้ยอดรวมประมาณ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4,000,000 รูปีปากีสถาน เพื่อสนับสนุนหมู่บ้าน Shahkot แม้จะย้ายถิ่นฐานไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ Taan ก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการเป็นชาวปากีสถานเสมอ โดยเฉพาะกับลุงของเขาที่ยังคงอาศัยอยู่ที่นั่น ลุงของเขาเป็นจุดติดต่อหลักของเขาตลอดความพยายามในการระดมทุน และมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ภูมิภาคนี้กลับมายืนหยัดได้อีกครั้งหลังน้ำท่วม

            มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมโครงการ “การสร้างสรรค์สื่ออย่างมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาชุมชน” ลงพื้นที่ชุมชนเปิดพื้นที่และให้โอกาสกับนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและสร้างสรรค์สื่อเพื่อแก้ปัญหาชุมชน             กชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การสร้างสรรค์สื่อของนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตจากโครงการดังกล่าว ถือว่าเกินความคาดหมาย เป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรและสถาบันการศึกษาในการทำงานผลิตสื่อเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งประชาชนในชุมชนต่างๆ ทั้ง 7 ชุมชนสามารถนำสื่อซึ่งสื่อสารในประเด็นปัญหาหรือความต้องการของชุมชนไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี เพราะอาจารย์และนักศึกษาม.รังสิตที่ร่วมโครงการนี้ได้ลงชุมชนจริง และเก็บข้อมูลสัมภาษณ์ผู้นำชุมชน ได้เห็นปัญหา และนำมาต่องยอดเป็นการสร้างสรรค์สื่อ ผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ ทั้ง อินโฟกราฟิก โปสเตอร์ โมชั่น สติ๊กเกอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสื่อสมัยใหม่ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในชุมชนได้มากขึ้น   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิรัชฌา วิเชียรปัญญา อาจารย์ประจำสาขาวิชามัลติมีเดีย วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ในนามของผู้รับผิดชอบโครงการ “การสร้างสรรค์สื่ออย่างมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาชุมชน”

  มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ  ร่วมยินดีกับ นายประเสริฐชัย นาคพเจริญทรัพย์ นักศึกษา เอกพลศึกษา ชั้นปีที่1/66 (รุ่น 3) จบจากจากโรงเรียนรัตนราษฎร์บำรุง เป็นนักกีฬาซอฟท์เทนนิสทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในการแข่งขันกีฬาซอฟท์เทนนิส การแข่งขันในประเภททีมชาย ซึ่งได้เข้าชิงเหรียญทองกับทีม อินโดนีเซีย ผลปรากฏว่า ทีมชายไทย พ่ายไปอย่างสูสี 1 – 2 คู่ โดย คู่มือ 1 อนวรรษ เกอะประสิทธิ์ กับ ลิปปกร ทองงิ้ว แพ้ 1-5 เกมส์