
ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย โดยศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ได้เดินทางไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กด้วยตนเอง เพื่อเข้าร่วมพิธีรับปริญญาดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ในพิธีมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า “การได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นหมุดหมายใหม่ของชีวิตส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการยอมรับในฐานะผู้ทำงานด้านการศึกษา ที่ได้อุทิศตนเพื่อความก้าวหน้าของสังคมมนุษย์ ในฐานะผู้มีความหลงใหลในศาสตร์การเรียนรู้และห่วงใยในสังคมมนุษย์อยู่เสมอ ผมมักจะเตือนตนเองว่า เมื่อความรู้เติบโตควบคู่ไปกับความเห็นอกเห็นใจและพลังแห่งการลงมือทำ สิ่งนั้นจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เปลี่ยนแปลงสังคม ดั่งเช่นในอดีตที่ผมได้รับรางวัลแมกไซไซก็เพราะความเชื่อมั่นในการอุทิศตนเพื่อมนุษยชาติและในวันนี้การได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์นี้ ก็ยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของผม ที่จะเดินหน้าสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้ง”
ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีแห่งมหาวิทยาลัยเกริกซึ่งมีอายุ 92 ปีในปีนี้ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อคณาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในพิธีรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ว่า“ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติอันทรงคุณค่านี้ต่อหน้าทุกท่าน มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลกมีความเป็นเลิศทางวิชาการ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและลึกซึ้ง ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องในครั้งนี้”
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ศาสตราจารย์ Igor Maksimtsevกล่าวถึงศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ว่า ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ อุทิศตนเพื่อการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่เพียงในระดับประเทศเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจระดับนานาชาติ เขามีปฏิสัมพันธ์และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประชาคมระหว่างประเทศ หลังจากที่คณะกรรมการได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ในการมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และได้เรียนเชิญศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์มารับเกียรตินี้ด้วยตนเองที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก”
ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก เป็นศาสตราจารย์ แพทย์ นักการเมือง และนักการศึกษาผู้ได้รับความเคารพและเป็นที่รักจากสังคมอย่างกว้างขวาง ในเส้นทางการศึกษาของท่าน ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ได้รับทุนการศึกษาเต็มจำนวนทุกระดับ โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยมหิดล ประเทศไทย ด้วยทุนรัฐบาลเต็มจำนวน ต่อมาได้รับทุนเต็มจำนวนเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยลอนดอนประเทศอังกฤษและระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งล้วนเป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของโลก หลังจากสำเร็จการศึกษา ท่านได้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์ในจังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย เป็นระยะเวลานานถึง 12 ปี โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ท่านได้รับรางวัลจากสมาคมแพทย์แห่งประเทศไทยและสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2516 ท่านได้รับรางวัลผู้นำชุมชนจาก รางวัลราโมน แมกไซไซ (Ramon Magsaysay Award) ซึ่งถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติระดับเอเชียที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “รางวัลโนเบลแห่งเอเชีย” โดยในปีเดียวกันนี้ ผู้ได้รับรางวัลร่วมกับท่านยังรวมถึง ศาสตราจารย์หยวน หลงผิง นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนผู้ได้รับสมญานามว่า “บิดาแห่งข้าวลูกผสม”
ต่อมา ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง และดำรงตำแหน่งสำคัญระดับประเทศหลายตำแหน่ง ได้แก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ไม่เพียงดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริกเท่านั้น หากยังดำรงตำแหน่งสำคัญในระดับชาติและนานาชาติอีกหลายตำแหน่ง ได้แก่ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center: ADPC) ขององค์การสหประชาชาติ รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทย กรรมาธิการประจำคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ ประธานโครงการฝึกอบรม “การพัฒนาประเทศ – ภาวะผู้นำด้านสุขภาพ” ของสถาบันวิจัยการพัฒนาประเทศไทย จากคุณูปการอันโดดเด่นในด้านสาธารณสุขและการศึกษา ศ.ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ได้รับรางวัล “เกียรติยศตลอดชีวิตเพื่อการพัฒนาประเทศ” (National Lifetime Achievement Award) เมื่อปี พ.ศ. 2564
มหาวิทยาลัยเกริก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2495 โดยผู้ก่อตั้งคือ ดร.เกริก มังคละบุตร (พ.ศ. 2458–2521) นักการศึกษาชื่อดังที่ได้รับการยกย่องทั้งในและต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกริกเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศไทย ที่มีรากฐานมั่นคงในประเทศ และขยายบทบาทสู่จีนและกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเน้นการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก และมีจุดเด่นในการผลิตบัณฑิตระดับสูงที่มีทักษะเชิงปฏิบัติ (Applied Professional Talents) มหาวิทยาลัยเกริกเป็นหนึ่งใน 7 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยอย่างต่อเนื่องจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และเป็นเจ้าของวารสารวิชาการระดับชาติที่ได้รับการรับรองจากทางการ ในปี พ.ศ. 2566 วิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยเกริกได้รับการรับรองเป็นสมาชิกระดับโลกของ มูลนิธิพัฒนาการจัดการแห่งยุโรป (European Foundation for Management Development – EFMD) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 ระบบการรับรองด้านบริหารธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้านการจัดอันดับมหาวิทยาลัยเกริกมีพัฒนาการอย่างโดดเด่นในระดับเอเชีย:
• ปี 2566 (2023) QS Asia University Rankings อันดับที่ 149 ติดอันดับ 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย เทียบระดับเดียวกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจีน (กลุ่ม 985)
• ปี 2567 (2024) QS Asia อันดับที่ 130 เป็นอันดับที่ 4 ของไทย
• ปี 2568 (2025) ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 141 ของเอเชีย
มหาวิทยาลัยเกริกจึงเป็นมหาวิทยาลัยของไทยที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Top 150 ของเอเชียติดต่อกัน 3 ปี จากมหาวิทยาลัยในเอเชียกว่า 8,000 แห่ง
มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (SaintPetersburg State University of Economics) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1930 (พ.ศ. 2473) เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของธนาคารกลางในอดีตมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใจกลางนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเน้นการพัฒนาและส่งเสริมสาขาวิชาที่มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ การจัดการ การเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจระหว่างประเทศ จากการจัดอันดับ Eduniversal Global Business School Rankings มหาวิทยาลัยแห่งนี้ติดอันดับ 500 มหาวิทยาลัยธุรกิจชั้นนำของโลกบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมีบทบาทอย่างกว้างขวางทั้งในวงการวิทยาศาสตร์ การเมือง และธุรกิจ สะท้อนให้เห็นถึง อิทธิพลระดับนานาชาติที่โดดเด่น ของสถาบันแห่งนี้
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเกริกแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้ร่วมกันจัดงาน “การประชุมอธิการบดี รัสเซีย–ไทย” อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 3–4 มีนาคม พ.ศ. 2568 ณ ประเทศไทยภายใต้หัวข้อหลัก ได้แก่ “มหาวิทยาลัย – พื้นที่นวัตกรรม” และ “ภูมิทัศน์การศึกษาจีนกับอาเซียน” โดยมีการหารือในประเด็นสำคัญ เช่น ขับเคลื่อนการศึกษาสู่ความเป็นสากล การสอนแบบดิจิทัล ความร่วมมือด้านการวิจัยทางวิชาการ และการพัฒนาบุคลากรนวัตกรรม โดยเชิญผู้นำมหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการจากรัสเซีย ไทย จีน และหลายประเทศในอาเซียนเข้าร่วมอย่างกว้างขวางในระหว่างการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนและหารืออย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวโน้มการศึกษาระดับโลกในศตวรรษที่ 21 การพัฒนาแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์ รวมถึงการบูรณาการทรัพยากรทางการศึกษาในกรอบความร่วมมือ “BRICS+” ฟอรั่มนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของไทยและรัสเซียเท่านั้นแต่ยังเปิดโอกาสใหม่ในการสร้างพันธมิตรทางการศึกษา ระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยูเรเชียอีกด้วย