ในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศได้ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้มากกว่าการถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงทฤษฎี แต่เน้นเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้สำรวจ ตั้งคำถาม และเชื่อมโยงความรู้ศาสตร์ต่าง ๆ เข้าสู่บริบทของชีวิตจริง ด้วยการเปิดรายวิชาที่แปลกใหม่ ท้าทายความคิด และกระตุ้นการเรียนรู้ อย่างเช่น “Dracula and Modern Culture” ภายใต้หลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรม (หลักสูตรนานาชาติ) หรือที่รู้จักในนาม BALAC (Bachelor of Arts in Language and Culture)
รายวิชาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวสยองขวัญและตำนานแวมไพร์ เป็นประตูบานใหญ่ที่นำพาผู้เรียนเข้าสู่โลกแห่งการศึกษาวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง ผ่านมุมมองที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ ทฤษฎีเพศ ชาติพันธุ์วรรณา ไปจนถึงปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมร่วมสมัย รายวิชานี้ไม่เพียงสอนให้นิสิตรู้จักนวนิยายคลาสสิกของแบรม สโตกเกอร์ (Bram Stoker) แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ถอดรหัสสัญลักษณ์แห่งความกลัว ความปรารถนา และความเป็นผู้อื่น ที่แฝงอยู่ในวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
“หลักสูตร BALAC มุ่งพัฒนานิสิตให้มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์โลกในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ความใฝ่รู้ และความตระหนักรู้ต่อความไม่เท่าเทียมในสังคม ตลอดจนความเข้าใจลึกซึ้งในศาสตร์ด้านมนุษยศาสตร์” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภรณี สิงห์เปลี่ยม ผู้อำนวยการหลักสูตร BALAC กล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภรณี สิงห์เปลี่ยม ผู้อำนวยการหลักสูตร BALAC
นอกจาก Dracula and Modern Culture หลักสูตร BALAC ยังมีรายวิชาอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Everyday Life Culture, Gender and Queering the Media, Postcolonial Cultures, Cultures and Narratives “แต่ละวิชาในหลักสูตรล้วนถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการคิดเชิงวิพากษ์และเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้แก่ผู้เรียน เพื่อพัฒนานิสิตให้เป็นผู้ที่มีความคิด
BALAC: หลักสูตรบุกเบิกการศึกษาวัฒนธรรมแห่งแรกของไทย
หลักสูตร BALAC เปิดการเรียนการสอนครั้งแรกในปี 2551 และยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในฐานะหลักสูตรด้านการศึกษาวัฒนธรรม (Cultural Studies) แห่งแรกของประเทศไทย จนปัจจุบันเป็นปีที่ 17 แล้ว โดยในแต่ละปีมีนิสิตสมัครเข้าเรียนหลักสูตรนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“หลักสูตรของเราเปิดรับนิสิตปีละ 2 รอบ คือ รอบ Early Admission 90 คน รอบ Admission 30 คน และรอบ Non-Thai อีก 2 รอบ รวมกัน 12 คน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 132 คนต่อปี กลับมีผู้สมัครเกินกว่า 300 คน แสดงให้เห็นว่าเยาวชนไทยต้องการเรียนรู้ในรูปแบบที่แตกต่างจากการศึกษาแบบดั้งเดิม”
ผศ.ดร.ภรณี กล่าวว่าสิ่งที่ทำให้หลักสูตร BALAC โดดเด่นคือการออกแบบหลักสูตรที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นให้นิสิตสามารถเลือกเรียนตามความสนใจใน 3 แนวทาง (Concentrations) ได้แก่ Global Cultures Concentration, Media Cultures Concentration และ Foreign Language Concentration โดยนิสิตจะต้องเรียนรายวิชาใน Concentration ที่เลือกให้ครบ 24 หน่วยกิต หรือ 8 รายวิชา จึงจะสำเร็จ Concentration นั้น ๆ ได้
“บัณฑิตจากหลักสูตร BALAC สามารถต่อยอดความรู้ไปสู่อาชีพหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ งานด้านการศึกษา งานสื่อสารมวลชน รวมถึงงานด้านการตลาด ซึ่งล้วนต้องอาศัยทักษะการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และความเข้าใจในบริบททางสังคมที่หลักสูตรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก” ผศ.ดร.ภรณี อธิบายถึงเส้นทางอาชีพของบัณฑิต
นอกจากนี้ หลักสูตร BALAC ยังมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก อาทิ Waseda University ประเทศญี่ปุ่น และ University of Queensland ประเทศออสเตรเลีย ภายใต้รูปแบบ Double Degree Program และในอนาคต หลักสูตรมีแผนที่จะขยายความเป็นนานาชาติให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางวิชาการและวิชาชีพให้แก่นิสิตอย่างรอบด้าน หลักสูตรยังมีรายวิชา Internship สำหรับนิสิตที่ต้องการฝึกงาน โดยสามารถนับหน่วยกิตเป็นส่วนหนึ่งของการสำเร็จการศึกษาได้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านกอทิกผู้ถอดรหัสความมืดมิด
รายวิชา Dracula and Modern Culture เปิดสอนครั้งแรกในปี 2562 โดย Dr. Katarzyna Ancuta (คาตาร์ซินา อันคูตา) ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมกอทิกและความสยองขวัญจากประเทศที่เป็นต้นกำเนิดตำนานที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Bram Stoker ในการสร้างสรรค์ผลงานคลาสสิก Dracula
“ตอนที่เข้ามาเป็นอาจารย์ที่นี่ในปี 2561 เห็นรายวิชา Dracula ในร่างหลักสูตรใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว แต่ยังไม่มีผู้สอน ก็ตื่นเต้นมากเพราะตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมกอทิก และ Dracula ซึ่งตรงกับรายวิชานี้พอดี”
Dr. Ancuta เรียกตัวเองว่า “Gothicist”มีความสนใจและเชี่ยวชาญด้าน Cultural Studies (การศึกษาทางวัฒนธรรม) โดยเบื้องต้นเริ่มจากการเรียนวรรณกรรม จากนั้นก็ขยับไปสู่ภาพยนตร์ อาจารย์เขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาโทเกี่ยวกับเรื่องผี และเรียนปริญญาเอกเกี่ยวกับกอทิกและความสยองขวัญ นอกจากนั้น อาจารย์ยังเขียนหนังสือ Where Angels Fear to Hover: Between the Gothic Disease and the Metaphysics of Horror (2548) และมีผลงานวิจัยที่ครอบคลุมบริบทสหวิทยาการของศิลปะกอทิก และสยองขวัญร่วมสมัย ตั้งแต่นิยายยอดนิยม ภาพยนตร์และวิดีโอ มัลติมีเดียและศิลปะการแสดง ละครเวที ดนตรีและการเต้นรำ การ์ตูนและนิยายภาพ ไปจนถึงแฟชั่นและวิถีชีวิตทางเลือก ในช่วงหลัง ๆ Dr. Ancuta สนใจผี แวมไพร์ และความลึกลับในเอเชียด้วย โดยเน้นไปที่ Asian Gothic และ Asian Horror