ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทย ออโต้ ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) TAT ผู้ผลิตแม่พิมพ์โลหะ อุปกรณ์จับยึด และชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่สำหรับจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ผู้ที่เติบโตมาจาก ‘เด็กช่าง’ ไล่ตามฝันที่จะเป็นครูช่าง ก่อนกระโจนสู่เส้นทางธุรกิจพันล้าน จนก้าวเข้าทำเนียบเป็นบริษัทมหาชนสำเร็จ กระทั่งสู่ความเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์โลหะและชิ้นส่วนยานยนต์ของภูมิภาคเอเชียที่ได้รับการยอมรับระดับสากลในปัจจุบัน
โดย ดร.พยุง ศักดาสาวิตร สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ปัจจุบันได้รับเลือกให้เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงวุฒิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
แม้จะประสบความสำเร็จด้านธุรกิจมากเพียงใด แต่ความเป็น “ครูช่าง” ไม่เคยจางหาย ด้วยนโยบายสืบทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่นของ ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ที่ยึดถือมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงยุคปัจจุบันก็คือ การเดินหน้าพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านยานยนต์ของไทย เพื่อรองรับการแข่งขันและการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า โดยได้ทำการลงนามบันทึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพ ประสิทธิภาพ ในการผลิตบัณฑิตรุ่นใหม่ให้มีความสามารถ รู้ลึก รู้จริง ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาฝึกปฏิบัติการจริง ทั้งในกระบวนการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ อุปกรณ์จับยึด อุปกรณ์ตรวจสอบ และการปั๊มขึ้นรูปชิ้นส่วน
ถึงแม้จะเป็นผู้บริหาร แต่บทบาทชีวิตของครูช่างยังคงอยู่ จากประสบการณ์ในการสอนอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตนนทบุรี กว่า 20 ปี ดังนั้นในการรับนักศึกษาเข้ามาฝึกงานกับทางบริษัท ดร.พยุง จะเป็นคนปฐมนิเทศเองทุกครั้ง เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยน mindset นักศึกษารุ่นใหม่ให้ตระหนักว่าการทำงานจริงและการเรียนในห้องเรียนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นในการมาฝึกงานจึงควรกอบโกยความรู้และประสบการณ์กลับไปให้มากที่สุด
ดร.พยุง ศักดาสาวิตร จึงถือเป็นบุคคลต้นแบบที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งในสังคม โดยเฉพาะในวงการศึกษาของไทยเรา จากการที่สนับสนุนเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถทัดเทียมอารยะประเทศ อันจะทำให้คนไทยมีศักยภาพพร้อมสู่ตลาดแรงงาน และส่งผลให้ประเทศชาติเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน