
กองทุนซะกาตและการกุศล มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย รับสมัครเยาวชนรับทุนการศึกษาปีการศึกษา 2568 ให้กับเยาวชนที่มีคุณสมบัติดังนี้
คุณสมบัติของผู้ขอรับทุน
1. มีบิดา/มารดา/ผู้ปกครอง เป็นผู้มีสิทธิ์รับซะกาตตามบทบัญญัติอิสลาม
2. เป็นเยาวชนมุสลิม สามารถอ่านกุรอานและปฏิบัติศาสนกิจได้
3. เป็นผู้มีความตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน
4. ยึดมั่นในหลักค่าสอนของศาสนาอิสลาม
5. ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอบายมุขทั้งปวง
ระดับการศึกษา
เยาวชนผู้ขอยื่นรับทุนการศึกษาเป็นผู้ที่กําลังศึกษาอยู่ หรือ จะเลื่อนชั้นหรือเข้าเรียนใหม่ ในระดับชั้นดังต่อไปนี้ ในปีการศึกษา 2568
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณามอบทุนให้ 1 ทุน ต่อ 1 ครอบครัว เท่านั้น
ขั้นตอนการขอรับแบบฟอร์มขอรับทุน
1. พิจารณาว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศ
2. ขอรับแบบฟอร์มขอรับทุนการศึกษาจากกองทุนซะกาตและการกุศล ได้ที่สํานักงานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลาง อิสลามแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2568 เวลา 09.30-15.00 น. (ยกเว้นวัน ศุกร์) โดยนําบัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับทุน และบัตรประชาชนตัวจริงของบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมายืนยัน ตัวตน (หากผู้ขอรับทุนยังไม่ได้ทําบัตรให้นําสูติบัตรตัวจริงมาแสดง) ณ สํานักงานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลาม แห่งประเทศไทย ชอยรามคําแหง 2 ถนนรามคําแหง แขวง/เขต สวนหลวง กรุงเทพมหานคร
(ทั้งนี้เอกสารแบบฟอร์มขอรับทุนการศึกษาจากกองทุนซะกาตฯเป็นเอกสารให้ฟรี)
3. ในวันที่ขอรับแบบฟอร์ม ให้ท่านกําหนดวันที่ท่านสะดวกในการมารับการสัมภาษณ์ ระหว่างวันที่ 14 เมษายน ถึง วันที่ 30 เมษายน 2568
4. กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มขอรับทุนฯให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ติดรูปถ่ายผู้ขอรับทุน (อาจเป็นภาพจากการใช้ กล้องมือถือได้) นําไปให้อิหม่าม / คอเต็บ หรือ บิหลั่นมัสยิด ลงนามรับรอง รวมทั้งหนังสือรับรองความรู้ด้าน ศาสนาของผู้ขอรับทุนจากครูสอนศาสนา
5. รวบรวมสําเนาเอกสารหลักฐานประกอบแบบฟอร์มขอรับทุนฯ เพื่อนําส่งสํานักงานมูลนิธิฯ ดังนี้
5.1) สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน, สําเนาสูติบัตร (หากไม่มีบัตรประชาชน) สําเนาทะเบียน บ้าน ของผู้ยื่นคําขอ (บิดา/มารดา/ ผู้ปกครอง) และผู้ขอรับทุน
5.2) สาเนาหนังสือรับรองผลการเรียน, สําเนาเอกสารแสดงผลการเรียน ภาคเรียนที่ 1 หรือ 2 ปีการศึกษา 2567 ของผู้ขอรับทุน (กรณีเอกสารผลการเรียนปีการศึกษา 2567 ไม่มี อนุโลมให้ใช้สําเนาเอกสาร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566) สําเนาเอกสารที่เป็นภาษาอาหรับ มลายู หรือ รูมี ให้แปลเป็นภาษาไทยให้เรียบร้อยชัดเจนพร้อมลงนามรับรองโดยผู้บริหารหรือครูผู้สอน
5.3) กรณีเข้าเรียนระดับการศึกษาใหม่ ให้แนบสําเนาการสอบเข้าเรียนได้ หรือสําเนาเอกสารการ ชําระเงินมาแสดง พร้อมสําเนาเอกสารแสดงผลการเรียนภาคเรียนที่ 1 หรือ 2 ปีการศึกษา 2567 ของชั้นเรียนเดิม
5.4).ผู้ขอรับทุนที่ศึกษาฮาฟิช ให้ผู้บริหารสถาบันออกหนังสือรับรองความสามารถในการ ท่องจํากุรอาน เป็นรายบุคคลให้ชัดเจน
ศาสนา
5.5) สำเนาใบประกาศนียบัตรผลการเรียนด้านศาสนา, สําเนาเอกสารแสดงร่วมกิจกรรมทาง
5.6) กรณีบิดา/มารดา/ ผู้ปกครองเสียชีวิต ให้แนบสําเนามรณบัตรมาแสดง
5.7) กรณีบิดา/มารดา / ผู้ปกครองเป็นผู้พิการ / เป็นผู้ป่วยร้ายแรงเรื้อรัง ให้แนบสําเนาหนังสือ รับรองความพิการ/สาเนาบัตรผู้ป่วยมาแสดง
5.8) กรณีบิดา มารดาแยกทางกัน/ บิดาไม่ส่งเสีย ให้แนบใบหย่า หรือหนังสือที่อิหม่ามลงนามรับรอง
5.9) ผู้ขอรับทุน/ บิดา-มารดา / ผู้ปกครอง ควรเขียนรายละเอียดข้อมูลให้ครบถ้วนชัดเจน โดยกรอกเอกสารตัวบรรจง อ่านง่าย เพื่อให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาได้ถูกต้องตามสภาพความเป็นจริง หากมี ข้อสงสัย คณะอนุกรรมการฯ อาจโทรศัพท์สอบถามกลับไปยังผู้ปกครอง (เพื่อประโยชน์ของผู้ขอรับทุนเอง)
5.10) ให้นําเอกสารทั้งหมดที่กรอกข้อมูลเรียบร้อย พร้อมแนบเอกสารตามที่ระบุในข้อ 5.1 – 5.8 มามอบให้กรรมการรับลงทะเบียนตรวจสอบให้ครบถ้วนในวันสัมภาษณ์
สําเนาเอกสารทุกฉบับ ให้ผู้ยื่นคําขอลงนามรับรองให้ครบถ้วน สําเนาเอกสารตั้งแต่ข้อ 5.1 – 5.4 ถือเป็น เอกสารสําคัญ หากไม่ใส่ของมาพร้อมกันจะไม่พิจารณา(ยกเว้นข้อ 5.3 เอกสารจากสถานศึกษาใหม่ที่ยัง ไม่มี ให้นําส่งภายหลังตามนัดหมาย) เอกสารหมายเลข 5.5 – 5.8 ถือเป็นเอกสารประกอบ หากไม่มีจะถูกตัด คะแนนในส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้ตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อยก่อนจะส่ง
ที่มาและศึกษาข้อมูล เพิ่มเติม